ระดับราคาคอนโดที่ชาวต่างชาตินิยม

ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้ชาวต่างชาติมากที่สุด อยู่ในช่วงราคา ดังนี้

1. ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีการโอนจำนวน 1,882 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 50.1% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับราคาที่คนต่างชาติส่วนใหญ่นิยมโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดนับมาตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน

2. ราคา 3.01-5 ล้านบาท มีจำนวน 868 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 23.1%

3. ราคา 5.01-7.50 ล้านบาท มีจำนวน 486 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 12.9%

4. ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 319 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 8.5%

5. ระดับราคา 7.51-10 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 201 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 5.4%

ในด้านมูลค่า พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในระดับราคา ดังนี้

1. ราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีมูลค่า 6,984 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37.6%

2. ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีมูลค่า 3,537 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19%

3. ราคา 3.01-5 ล้านบาท มีมูลค่า 3,416 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18.4%

4. ราคา 5.01-7.50 ล้านบาท มีมูลค่า 2,909 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.7%

5. ราคา 7.51-10 ล้านบาท มีมูลค่าน้อยที่สุด คือ 1,724 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9.3%

ขนาดพื้นที่คอนโดที่ชาวต่างชาตินิยม

ขนาดห้องชุดที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ คือ

1. ขนาดพื้นที่ 31-60 ตารางเมตร (ประเภท 1-2 ห้องนอน) มีจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ให้ชาวต่างชาติ จำนวน 1,712 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 45.6%

2. ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร (ห้องสตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน) มีจำนวน 1,436 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 38.2%

3. ขนาดพื้นที่ 61-100 ตารางเมตร (2-3 ห้องนอนขึ้นไป) มีจำนวน 421 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 11.2%

4. ขนาดพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร (3 ห้องนอนขึ้นไป) มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 187 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 5%

เมื่อพิจารณาย้อนหลังไปถึงปี 2562 พบว่า ห้องชุดขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร และขนาด 31-60 ตารางเมตร เป็นประเภทห้องชุดที่ชาวต่างชาตินิยมมากที่สุด โดยมีสัดส่วนจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์รวมกันสูงกว่า 80% ในแต่ละไตรมาส

ขณะที่ด้านมูลค่า ขนาดห้องชุดที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ คือ

1. ขนาดพื้นที่ 31-60 ตารางเมตร (ประเภท 1-2 ห้องนอน) โดยมีจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ให้ชาวต่างชาติ มีมูลค่า 6,854 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 36.9%

2. ขนาดพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร (3 ห้องนอนขึ้นไป) มูลค่า 4,318 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 23.2%

3. ขนาดพื้นที่ 61-100 ตารางเมตร (2-3 ห้องนอนขึ้นไป) มีมูลค่า 3,935 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 21.2%

4. ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร (สตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน) มีจำนวนมูลค่าน้อยที่สุด คือ มูลค่า 3,464 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18.7%

หากนับตั้งแต่ปี 2562 พบว่า ห้องชุดขนาด 31-60 ตารางเมตร เป็นประเภทห้องชุดที่ชาวต่างชาตินิยมมากที่สุด
 

เปิดช่องต่างชาติซื้อบ้านในไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เคยให้ความเห็นว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการเรื่องการเปิดให้สามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินหรือซื้อที่ดินเพื่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างชาตินั้น

ถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนหนึ่ง ที่จะดึงดูดคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้ามาสู่ประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างให้เกิดอุปสงค์ใหม่ ๆ ที่มีกำลังซื้อสูงในประเทศเพื่อเข้ามาอยู่อาศัยในระยะยาว และจับจ่ายใช้สอยในสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ

ทั้งนี้ ประเทศไทยเปิดให้คนต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ โดยพบว่า ในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 มีการโอนกรรมสิทธิ์ปีละมากกว่า 10,000 หน่วย มูลค่ามากกว่า 50,000 ล้านบาท หรือประมาณ 5% ของการโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศ

แต่หากเปิดให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินได้ คาดว่าก็น่าจะทำให้เกิดมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มสูงสุดได้อีกประมาณ 50,000 หน่วย มูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะทำให้สัดส่วนของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่ซื้อโดยคนต่างชาติเพิ่มจาก 5% เป็น 15% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งประเทศ

ข้อกังวลในการเปิดช่องให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านในไทย

อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการนโยบายนี้ควรกำหนดให้ชัดเจนว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านในไทยและที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยระยะยาวในไทย ในช่วงกี่ปี อาจไม่ต้องเปิดนโยบายนี้ตลอดไป

รวมทั้งยังควรกำหนดให้ชัดเจนว่าเป็นที่อยู่อาศัยระดับราคาใด เพื่อไม่ให้เกิดการซื้อที่ดินและที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่อยู่ในกำลังซื้อของคนไทยส่วนใหญ่ เช่น รัฐบาลอาจไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านและที่ดินในระดับราคาไม่เกิน 10-15 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่

นอกจากนี้ ควรกำหนดระยะเวลาในการถือครองกรรมสิทธิ์ให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการเก็งกำไร เช่น ไม่น้อยกว่า 3-5 ปี ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดการเก็งกำไรในที่ดินและราคาที่อยู่อาศัย และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ได้

รวมถึงควรมีการกำหนดภาษีหรือค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เป็นคนต่างชาติในอัตราที่แตกต่างจากคนไทย และการกำหนดเรื่องกฎเกณฑ์การขายบ้านและที่ดินเมื่อชาวต่างชาติต้องการขายต่อเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งแล้วให้ชัดเจน