COVID-19 กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก และส่งผลกระทบไปยังทุกกลุ่มธุรกิจ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่อาจจะต้องเผชิญกับ ‘ความปกติแบบใหม่’ หรือ ‘New Normal’ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
จะพูดแบบเต็ม 100% คงจะไม่ถูกทั้งหมด แต่วิธีการแรกที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อบ้านหรือคอนโด จะใช้ Internet ในการค้นหา ในยุค New Normal การเลือกซื้อ ผู้ซื้อหลายท่านก็ยังคงต้องการไปดูสถานที่จริง เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ แต่ Video Review จะมีความสำคัญมากขึ้น ซึ่งผู้บริโภคจะค้นหาจากช่องทาง Social Media โดยผู้บริโภคจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการเปรียบเทียบแต่ละโครงการ แทนการสำรวจทีละ 5-10 โครงการด้วยตัวเอง
Work from Home ซื้อบ้านไม่ต้องใกล้ที่ทำงาน
เมื่อหมดยุคโควิด บริษัทยังมีการ Work from Home ต่อเนื่องสำหรับหลายธุรกิจ จะส่งผลให้คนซื้อบ้านที่ไม่ต้องอยู่ในเมือง ทำให้มีตัวเลือกที่มากขึ้นภายใต้งบที่ตั้งไว้ ในขณะที่บ้านจัดสรรอาจยังไม่ได้รับผลกระทบเรื่องขนาดมากนัก แต่เชื่อว่าคอนโดมิเนียมขนาด 1 ห้องนอนในสถานีส่วนต่อขยาย อาจต้องมีขนาดประมาณ 35 ตร.ม.ขึ้นไป ขณะเดียวกัน ภายในห้องพักจะต้องมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมี ‘WFH Function’ ทั้งพื้นที่สำหรับกิน นอน ทำงาน และออกกำลังกาย
จากที่ทุกคนทราบโควิด-19 เป็นเรื่องใหญ่ที่เปลี่ยนพฤติกรรมคนแล้ว ‘ดีมานด์’ เองก็มีแนวโน้มปรับตัวลดลง 30-50% ขึ้นอยู่กับว่า จะจบช้าหรือเร็วแค่ไหน แต่ถ้ายังทำการตลาดแบบเดิม ๆ อาทิ การใช้สื่อกลุ่ม Out of Home ผู้ประกอบการก็มีโอกาสจะโดน ‘ดิสรัปต์’ ไปพร้อมตลาดที่ดีมานด์หดตัว ดังนั้นต้องปรับวิธีการทำตลาดใหม่ทั้งหมด
การปรับตัวเข้าสู่ยุค New Normal นั้น จะเป็นเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่นำมาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นระบบมากขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของ New Normal ภาคบริการอสังหาริมทรัพย์นั้น มองว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อรองรับช่วงที่เกิดการระบาดของ COVID-19 เท่านั้น แต่จะกลายเป็นแนวทางใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคตลอดไป เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เป็นไปตามเทรนด์ของการใช้ชีวิตที่ช่วยอำนวยความสะดวกของคนยุคนี้ที่สามารถสร้างประสบการณ์ต่างๆ ผ่าน Internet อย่างคล่องตัว